คันโยก Joy-Con ของ Nintendo Switch เพี้ยน? จับเปลี่ยนเองซะเลย

Akexorcist
3 min readApr 12, 2020

เพราะไม่มีเงินซื้อใหม่ทั้งชุด เลยซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนแทน

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ซื้อ Nintendo Switch มาเล่นเกมที่ชอบ ซึ่งซื้อมาหลายปีและเล่นเป็นประจำ และเจอปัญหาว่าคันโยกของ Joy-Con มีอาการเพี้ยน หรือที่เค้าเรียกกันว่า Stick Dirft ซึ่งเป็นอาการปกติที่อาจจะเจอกันได้

คันโยกเพี้ยนหรือ Stick Drift

ปัญหาคันโยกเพี้ยนคือการที่เราโยกคันโยกเวลาเล่นเกม แล้วคันโยกไม่เด้งกลับไปที่ตรงกลาง แต่จะเอียงไปทางใดทางนึง แล้วเราต้องขยับมันนิดหน่อย มันถึงจะกลับไปอยู่ที่ตรงกลาง

อาการหนักมาก ขนาดปล่อยคันโยกแล้วยังค้างอยู่ข้างบน

เราสามารถทดสอบได้ด้วย Calibrate Control Sticks ที่อยู่ใน Settings ของเครื่อง ด้วยการลองโยกคันโยกหลายๆครั้งแล้วปล่อย โดยตำแหน่งคันโยกจะต้องกลับมาอยู่ตรงกลางทุกครั้งหลังจากเราปล่อยคันโยกนั่นเอง

เมื่อไม่ได้แตะคันโยก ก็ควรจะอยู่ตรงกลางเสมอ

อาการหนักเกินและไม่สามารถ Calibrate เพื่อแก้ปัญหาได้

โดยปกติแล้วถ้าอาการไม่หนักมาก เราก็สามารถ Calibrate หรือหยอด WD-40 เพื่อให้มันหายเป็นปกติได้ แต่ถ้าใช้งานไปนานๆแล้ววิธีเหล่านั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว ก็อาจจะต้องเปลี่ยนคันโยกใหม่

ต้องเตรียมอะไรบ้าง

อะไหล่คันโยกของ Joy-Con

สามารถสั่งซื้อได้ตามอินเตอร์เน็ต ราคาอยู่ที่ประมาณ 60–100 บาท

ไขควงหัว 3 แฉกและ 4 แฉกขนาดเล็ก

สำหรับหัว 4 แฉกขนาดเล็กมักจะมีอยู่แล้วในไขควงอเนกประสงค์แบบเปลี่ยนหัวได้ แต่ที่หายากคือไขควงแบบหัว 3 แฉกขนาดเล็ก ซึ่งเป็นหัวพิเศษไม่ค่อยมีขายทั่วไป เลยต้องหาสั่งซื้อในอินเตอร์เน็ต

โดยไขควงแบบนี้มักจะขายคู่กับคันโยกของ Joy-Con เลย

อื่นๆตามใจชอบ

ที่เหลือก็จะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบง่ายๆ อย่างเช่น คีมคีบอันเล็กสำหรับคีบสายวงจร และแท่งพลาสติกสำหรับงัด

เมื่ออุปกรณ์พร้อมแล้วก็มาแกะ Joy-Con เพื่อเปลี่ยนคันโยกกันได้เลย

เริ่มแกะ Joy-Con

สำหรับ Joy-Con จะประกอบไปด้วยแผ่นฐานทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน คือ ฐานด้านหน้า, ฐานตรงกลาง และฐานด้านหลัง (หรือฝาหลัง)

การเปลี่ยนคันโยกของ Joy-Con จะต้องถอดฝาหลังและฐานตรงกลางออก

เริ่มจากให้ใช้ไขควง 3 แฉกเพื่อขันสกรูที่อยู่ด้านหลัง Joy-Con ทั้ง 4 จุดออกให้หมดก่อน

เมื่อไขสกรูออกหมดแล้ว ให้งัดฝาหลังออกมา โดยงัดจากฝั่งที่มีส่วนโค้ง เพราะว่าด้านที่มีสลักล็อค Joy-Con เข้ากับตัวเครื่องจะมีสายแพอยู่ด้วย

ที่สลักล็อค Joy-Con เข้ากับตัวเครื่องจะมีสายแพ 2 เส้น ดังนั้น

การเปิดฝาหลังสามารถทำได้ง่าย ดังนั้นไม่ต้องออกแรงเยอะมากนัก จะได้ไม่ต้องกลัวว่าสายแพขาด

ต่อไปให้แงะแบตเตอรีออกมาจากช่องใส่แบตเตอรี โดยด้านข้างจะมีร่องสำหรับงัด ให้ใช้แท่งพลาสติกงัดออกมา

ด้านหลังแบตเตอรีจะมีเทปกาวเพื่อยึดให้ติดกับฐาน แต่ไม่ได้เหนียวมากนัก ดังนั้นไม่ต้องใช้แรงมากนักก็สามารถแงะแบตเตอรีออกมาได้ แต่ให้ระวังสายไฟของแบตเตอรีด้วย เพราะว่าเราจะไม่ได้ถอดออก เนื่องจากการเปลี่ยนคันโยกจะไม่ได้ยุ่งกับวงจรส่วนนั้น (เปลี่ยนคันโยกทั้งๆที่ใช้งานได้อยู่นี่แหละ)

ต่อมาให้ถอดฐานตรงกลางออก โดยขันสกรูทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน

ขันสกรูแค่ 3 จุดที่วงไว้ในภาพก็เพียงพอแล้ว

เพราะตำแหน่งสกรูอีก 2 จุดที่เหลือคือสกรูสำหรับยืดแผงวงจรเข้ากับฝาหน้า ดังนั้นจะขันหรือไม่ขันออกก็มีค่าเท่ากัน จึงมีแค่สกรูแค่ 3 ตัวเท่านั้นที่ยึดแผ่นฐานตรงกลางเข้ากับฝาหน้า

เมื่อขันสกรูออกแล้วก็สามารถยกฐานตรงกลางออกมาได้เลย

นอกจากมีช่องใส่แบตเตอรีแล้ว ฐานตรงกลางยังมีปุ่ม R/L ด้วย โดยจะมีสายแพเชื่อมกับวงจรอยู่ ดังนั้นยกออกมาวางไว้ข้างๆก็พอ เพื่อจะได้ไม่ต้องถอดสายแพสำหรับปุ่ม R/L ออก

หน้าตาของแผงวงจรใน Joy-Con โดยในกรอบสี่เหลี่ยมคือคันโยกของ Joy-Con

ต่อมาเราจะทำการถอดสายแพและขันสกรูของคันโยกออกมาเพื่อใส่อันใหม่เข้าไปแทน โดยจะมีสายแพ 1 เส้น และสกรู 2 จุด

จะเห็นว่าสกรูตัวหนึงถูกบังด้วยสายแพของปุ่ม +/- ดังนั้นให้ถอดสายแพของปุ่ม +/- ออกก่อน

สายแพต่างๆจะต่อกับวงจรด้วยสลักล็อค โดยการถอดสายแพออกจะต้องงัดสลักขึ้นก่อน สังเกตุได้จากพลาสติกสีเทา/สีดำที่จุดต่อสายแพ

เมื่องัดสลักขึ้นแล้ว ก็ให้ใช้คีบหนีบสายแพออกมา

แล้วทำการขันสกรูและถอดสายแพของคันโยกออกให้หมดซะ และจะสามารถถอดคันโยกออกมาได้เลย

จากนั้นก็ถึงเวลาใส่คันโยกตัวใหม่เข้าไปแล้ววววว

ไม่ต้องไปสนใจสีของสายแพ เพราะไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว

เริ่มจากต่อสายแพก่อน โดยให้คีมหนีบสายแพเพื่อเสียบเข้าไปที่จุดเดิม แล้วดันสลักล็อคลงเหมือนเดิมซะ (อย่าลืมทดสอบขยับสายแพเพื่อดูว่าเสียบแน่นหรือไม่ด้วยนะ)

เนื่องจากคันโยกมันจะนูนที่ด้านหน้าของ Joy-Con อาจจะทำให้ขันสกรูกลับเข้าไปได้ยาก เราขอแนะนำให้หาอะไรมารองฝาหน้าของ Joy-Con จะได้ขันสกรูได้ง่ายขึ้น

ยางลบนี่คืออุปกรณ์อเนกประสงค์สุดๆสำหรับผมแล้ว

จากนั้นก็ขันสกรูยึดคันโยกทั้ง 2 จุดเข้ากับฝาหน้าให้เหมือนเดิมซะ

ส่วนสายแพที่ถอดออกมาชั่วคราวเพราะมันไปบังตอนถอดคันโยก ก็ใส่กลับไปที่เดิมให้เรียบร้อย

เสียบเข้าไปแล้ว อย่าลืมดันสลักล็อคลงมาด้วยล่ะ

จากนั้นวางแผ่นฐานตรงกลางทับลงไปที่เดิมแล้วขันสกรูทั้ง 3 ตัวให้เหมือนเดิม

แล้ววางแบตเตอรีลงไปในช่องเดิม

จากนั้นก็ปิดฝาหลังให้เหมือนเดิมซะ โดยแนะนำให้ใส่จากด้านที่มีสลักล็อคกับตัวเครื่องก่อน

เพราะด้านนี้ต้องใส่ให้ตรงร่อง ไม่งั้นจะปิดฝาหลังไม่สนิท

ถึงขั้นตอนนี้จะทดสอบคันโยกด้วย Calibrate ใน Settings ก่อนที่จะขันสกรูสำหรับฝาหลังก็ได้ เผื่อมีปัญหาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแกะใหม่อีกครั้ง

โดยทดสอบทุกอย่างให้เรียบร้อย ดูว่าอาการคันโยกเพี้ยนหายแล้วหรือยัง ปุ่มต่างๆสามารถกดได้เหมือนเดิมใช่มั้ย และไฟ LED ทำงานได้ปกติหรือป่าว

เมื่อทดสอบทั้งหมดแล้ว และสามารถทำงานได้ปกติทุกอย่างก็ขันสกรูหัว 3 แฉกเพื่อปิดฝาหลังได้เลยจ้าาาาาา

เสร็จเรียบร้อยแล้ว

เพียงเท่านี้ก็สามารถกลับมาเล่นเกมต่างๆใน Nintendo Switch ได้เหมือนเดิม ไร้อาการหงุดหงิดจากปัญหาคันโยกเพี้ยนแล้ว

โดยการเปลี่ยนคันโยกนั้นสามารถทำได้ค่อนข้างง่าย สามารถซื้ออะไหล่และเครื่องมือได้ในราคาที่ไม่แพง (เมื่อเทียบกับซื้อ Joy-Con ใหม่) และนอกจากนี้เรายังสามารถตุนอะไหล่คันโยกเก็บไว้ได้อีกด้วย เผื่อวันหน้าเจอปัญหานี้อีกครั้ง ก็ค่อยจับเปลี่ยนใหม่ซะ

--

--

Akexorcist

Lovely android developer who enjoys learning in android technology, habitual article writer about Android development for Android community in Thailand.