ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่ไม่ได้ดีต่อการทำงานซักเท่าไร

บทความนี้เป็นเนื้อหาฉบับเต็มจากโพสต์ส่วนตัวของผมใน Facebook
เคยเป็นคนที่ชอบ Work from anywhere
เคยคิดว่าสายงาน Mobile Developer อย่างเราสามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้ จึงเคยนั่งทำงานนอกสถานที่มามากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในร้านกาแฟ, Co-working Space, ที่พักบนดอยระหว่างเที่ยว, นั่งทำงานในโรงแรม 5 ดาว, หรือที่พัก Airbnb ในต่างประเทศ
แต่ในปัจจุบันผมล้มเลิกความคิดนั้นไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ค้นพบว่าการ Work from anywhere ไม่ได้สะดวกสบายอย่างที่คิดซักเท่าไร อีกทั้งยังทำให้เราทำงานได้ไม่เต็มที่อีกด้วย เพราะไม่ใช่ทุกที่ที่จะมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนั่งทำงานของเราได้อย่างจริงจังเสมอไป เช่น เราไม่สามารถนั่งทำงานด้วยเก้าอี้ชายหาดที่มองเห็นวิวทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพหรอก คอมก็ร้อน, ปลั๊กก็ต้องหา, ตัวก็เหนียวจากไอทะเล, นั่งนาน ๆ ก็ไม่สบายตัว อย่างดีก็ช่วยให้สมองปลอดโปร่งรู้สึกผ่อนคลายและสามารถคิดอะไรออกได้ง่ายขึ้น
สำคัญกว่าสถานที่ทำงานก็คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานนี่แหละ
เพราะสิ่งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานโดยตรงคืออุปกรณ์ที่เราใช้ในการทำงาน เช่น ผมที่ทำงานบนจอคอมขนาด 13 นิ้วก็ทำได้ (ถ้าจำเป็น) แต่ถ้าได้จอแยกขนาด 27 นิ้ว ก็จะทำงานได้สะดวกรวดเร็วกว่า เป็นต้น
รวมไปถึงอุปกรณ์อย่างโต๊ะทำงานและเก้าอี้ทำงานด้วยเช่นกัน เพราะการทำงานบนโต๊ะทำงาน นั่งบนเก้าอี้ดี ๆ ที่สามารถนั่งทำงานได้นาน ๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถทำงานได้ดีขึ้น (การไม่ปวดหลัง ไม่ปวดคอ ไม่ปวดไหล่ คือความสุขอย่างหนึ่งของคนวัยทำงานน่ะนะ)
นั่นจึงเป็นที่ว่ามาพื้นที่ที่ผมสามารถทำงานได้ Productive มากที่สุดในทุกวันนี้ก็คือห้องทำงานของตัวเองหรือที่ออฟฟิศที่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ผมพร้อมใช้งาน (หรือจะเป็น Co-working Space ที่มีจอแยกให้เช่าก็ได้เช่นกันนะ)
แต่ประเด็นอุปกรณ์ก็จะแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคน บางคนก็ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ บางคนก็ใช้อุปกรณ์น้อย ดังนั้นถ้าใครที่ต้องใช้อุปกรณ์น้อยก็จะมีความยืดหยุ่นในเรื่องนี้มากกว่า